วิธีวัดคัพหน้าอกที่ถูกต้อง

การเลือกขนาดคัพหน้าอกเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชุดชั้นในที่เหมาะสมหรือการตัดสินใจในการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ขนาดคัพหน้าอกถูกกำหนดจากการวัดรอบอกและรอบใต้หน้าอก โดยขนาดคัพที่แตกต่างกันจะบ่งบอกถึงปริมาณของเนื้อหน้าอก อยากรู้ว่าตัวเองหน้าอกคัพอะไร หาคำตอบได้ในบทความนี้

Key Takeaways : 

  • วิธีวัดขนาดคัพหน้าอก ทำได้โดยการใช้สายวัดมารัดรอบตัวในระดับหัวนม และรอบใต้หน้าอก จากนั้นนำค่าทั้ง 2 อย่างมาลบกัน ผลต่างที่ได้จะเป็นตัวบอกขนาดหน้าอกของแต่ละคน
  • ขนาดหน้าอกผู้หญิงมีตั้งแต่คัพ A-F ซึ่งจะมีปริมาณเนื้อหน้าอกแตกต่างกันไป การรู้คัพนมช่วยให้สามารถเลือกใส่บราได้พอดีตัวยิ่งขึ้น ช่วยกระชับ พร้อมเก็บทรงสวย 
  • การรู้คัพหน้าอกที่ถูกต้อง ช่วยให้เสริมนมได้ไซส์ที่สวยงาม ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป

สารบัญบทความ

คัพ A อกของสาวไซส์มินิ ดูแลง่าย เคลื่อนไหวคล่อง 

คัพ A เป็นหนึ่งในขนาดคัพของหน้าอกที่เล็กที่สุดตามมาตรฐานการวัดขนาดชุดชั้นใน โดยทั่วไป ขนาดคัพถูกกำหนดจากส่วนต่างระหว่างรอบอกและรอบใต้หน้าอก ซึ่งในกรณีของคัพ A ส่วนต่างนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 นิ้ว

คัพ A  กี่ cc?

การวัดขนาดคัพ A ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ปริมาณซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 80-150 cc 

คัพ A ดีอย่างไร

ขนาดเล็กของหน้าอกคัพ A มีข้อดีในเรื่องความคล่องตัว เคลื่อนไหวสะดวก ไม่รู้สึกอึดอัดหรือมีปัญหาสุขภาพ เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ มากเท่ากับคัพหน้าอกไซส์อื่น ๆ อีกทั้งยังดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ชุดชั้นในของคนคัพ A จึงมักออกแบบให้สวมใส่สบาย แต่ยังเก็บกระชับหน้าอกได้ดี

การเลือกชุดชั้นในสำหรับคัพ A

วิธีเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับสาวคัพ A สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  • เริ่มต้นจากการวัดขนาดรอบอกและรอบใต้หน้าอกให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ชุดชั้นในที่มีขนาดพอดีตัว สวมใส่สบาย ไม่อึดอัดรัดแน่น มีความกระชับเข้าทรง
  • จากนั้นเลือกสไตล์ที่ชอบหรือเลือกใส่ให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำ เช่น เลือกใส่สปอร์ตบราเมื่อมีกิจกรรมทางกาย จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของเต้านมให้น้อยลง หรือเลือกบราเสริมฟองน้ำ เมื่อต้องการให้เนินอกอวบอิ่ม เป็นทรงสวย ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้มีสัดส่วนยิ่งขึ้น
  • ปรับสายบราให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ควรปรับให้แน่นหรือหลวมเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และเคลื่อนไหวลำบากได้ 

คัพ B ขนาดมาตรฐาน ดูโค้งเว้าแบบพองาม 

คัพ B เป็นอีกหนึ่งไซส์หน้าอกผู้หญิงที่พบได้บ่อย จึงมักถูกเลือกเป็นขนาดมาตรฐานในการออกแบบของชุดชั้นในหลายแบรนด์ โดยคัพ B จะมีลักษณะใหญ่กว่าคัพ A แต่ยังอยู่ในขนาดปานกลาง มีผลต่างระหว่างรอบอกกับรอบใต้หน้าอกอยู่ที่ประมาณ 2 นิ้ว

สำหรับผู้ที่มีโครงร่างปานกลาง แต่คัพหน้าอกเล็กมากจนดูไม่สมส่วน สามารถเสริมหน้าอกเป็นคัพ B เพื่อปรับสัดส่วนให้สวยงามขึ้น มีความกระชับพอดีตัว หน้าอกไม่เล็กเกินไปหรือใหญ่สะดุดตามากนัก

คัพ B กี่ cc?

การวัดขนาดคัพ B ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ปริมาณซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 150-250 cc

คัพ B ดีอย่างไร

หน้าอกคัพ B เป็นขนาดที่กำลังพอเหมาะ ไม่แบนราบจนขาดมิติหรือเต็มแน่นจนรู้สึกอึดอัด คัพหน้าอกนี้สามารถหาชุดชั้นในที่เหมาะสมได้ง่าย รวมถึงสวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์อีกด้วย

การเลือกชุดชั้นในสำหรับคัพ B

การเลือกชุดชั้นในให้เหมาะสมกับสาว ๆ ที่มีหน้าอกคัพ B มีสิ่งที่ควรใส่ใจดังนี้

  • การวัดขนาดรอบอกและรอบใต้หน้าอกอย่างถูกต้อง โดยจะต้องมีส่วนต่างอยู่ที่ประมาณ 2 นิ้ว
  • เลือกใส่ชุดชั้นในให้เหมาะกับกิจกรรม อาจสวมบราสำหรับออกกำลังกาย หรือบราที่มีฟองน้ำเสริมเพื่อเพิ่มขนาดให้อวบอิ่มขึ้น 
  • คัพหน้าอก B เป็นขนาดที่กำลังดี ไม่เล็กหรือใหญ่ไป จึงสามารถใช้เสื้อในแบบสายเล็กหรือสายใหญ่ก็ได้ แต่ควรปรับสายให้อยู่ในระดับพอดี เพื่อลดการเสียดสีและแรงกดทับบริเวณไหล่

คัพ C ขนาดอกที่มีความอวบอิ่ม ดูโดดเด่น เต็มรูป

คัพ C เป็นขนาดคัพหน้าอกที่ใหญ่กว่าคัพ A และ B โดยมีผลต่างรอบหน้าอกกับรอบใต้หน้าอกประมาณ 3 นิ้ว ขนาดเต้านมจะดูอวบอิ่ม เต็มรูปกว่าคัพอื่น ๆ ที่ผ่านมา มีความโดดเด่น แต่กระชับพอดีตัวสำหรับคนที่มีโครงร่างปานกลางถึงใหญ่

คัพ C กี่ cc?

การวัดขนาดคัพ C ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ปริมาณซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 250-350 cc

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสริมหน้าอก 300cc ได้ที่ : นม300cc

คัพ C ดีอย่างไร

คัพ C จะมีความโดดเด่น เต็มรูปของหน้าอกอย่างชัดเจนกว่าคัพ A และคัพ B เมื่อใส่เสื้อผ้าเข้ารูป จะขับเน้นสัดส่วนเว้าโค้งอย่างชัดเจน หุ่นโดยรวมดูสมดุล สวยงาม ผู้ที่มีคัพหน้าอกนี้มักรู้สึกสนุกกับการแต่งตัวหลากหลายสไตล์ ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพได้ดี 

การเลือกชุดชั้นในสำหรับคัพ C

ชุดชั้นในสำหรับหน้าอกคัพ C ควรเลือกด้วยหลักการดังต่อไปนี้

  • ควรวัดไซส์คัพหน้าอกให้ถูกต้อง โดยหลังคำนวณหาส่วนต่างของสัดส่วนแล้ว จะต้องมีรอบอกต่างจากรอบใต้หน้าอกที่ประมาณ 3 นิ้ว หากไม่มั่นใจว่าตนเองวัดได้อย่างแม่นยำหรือไม่ ควรลองสวมเสื้อในก่อนซื้อทุกครั้ง
  • เลือกประเภทชุดชั้นในให้เหมาะกับกิจกรรมในแต่ละวัน อาจเลือกใส่บรามีโครงแบบดันทรง ซึ่งมีความสามารถในการรองรับและกระชับหน้าอกได้ดี ช่วยขับเน้นรูปร่างให้ดูอวบอิ่ม เซ็กซี่ยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใส่เพื่อไปงานปาร์ตี้หรือออกงานสังคมต่าง ๆ 
  • หน้าอกคัพ C ค่อนข้างมีเนื้อเต็มแน่น ควรปรับสายเสื้อในให้พอดี หากรัดแน่นหรือหลวมเกินไปอาจทำให้รองรับหน้าอกได้ไม่ดี ขาดความสบายในการสวมใส่ ทั้งยังส่งผลเสียต่อรูปร่างของหน้าอกอีกด้วย 

คัพ D อกที่สาว ๆ ด้วยกันเอง ยังต้องเหลียวมอง 

คัพ D มีลักษณะที่ใหญ่และโดดเด่นอย่างมาก แต่จะยังคงความสมดุลเอาไว้ได้ เมื่ออยู่กับคนที่มีโครงร่างใหญ่ โดยความห่างของรอบอกกับรอบใต้อกจะอยู่ที่ประมาณ 4 นิ้ว สาว ๆ ที่ต้องการเสริมหน้าอกคัพ D มักเกี่ยวข้องกับการปรับรูปร่างให้มีความสมบูรณ์ ไซส์หน้าอกเหมาะกับขนาดตัวมากขึ้น 

คัพ D กี่ cc?

การวัดขนาดคัพ D ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ปริมาณซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 350-450 cc

คัพ D ดีอย่างไร

หน้าอกคัพ D มีความโดดเด่นเรื่องขนาดที่ใหญ่อย่างชัดเจน เนื้อเต็มแน่น ช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ ทำให้รูปร่างโดยรวมดูมีเสน่ห์ ดึงดูดสายตา และเพิ่มความมั่นใจได้ดี แต่ก็มีข้อควรระวังในการดูแลรักษาคัพหน้าอกไซส์นี้เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

การเลือกชุดชั้นในสำหรับคัพ D

หน้าอกคัพ D ต้องการความใส่ใจในการเลือกบราเป็นพิเศษ มากกว่าคัพหน้าอกอื่น ๆ ที่ผ่านมา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพและการเสียรูปทรงในอนาคต ควรเลือกชุดชั้นในตามวิธีการเหล่านี้

  • ขั้นแรกควรกำหนดไซส์หน้าอกของตัวเองให้ได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้บราที่กระชับเข้ากับตัวพอดี ไม่หลวมหรือรัดหน้าอกจนหายใจไม่สะดวก
  • สาว ๆ ที่มีหน้าอกขนาดใหญ่ ควรใส่บราที่มีโครง เพื่อยกหน้าอกขึ้น ทั้งยังสามารถรองรับน้ำหนัก พร้อมเก็บกระชับเต้านมได้ดี ไม่เกิดความหย่อนคล้อย แต่บราประเภทนี้จะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก อาจเลือกใส่บราเต็มทรง (Full-Coverage Bra) เพื่อลดแรงกดทับบริเวณหน้าอกให้น้อยลง มีความสบายในการสวมใส่มากขึ้น
  • ควรหลีกเลี่ยงการใช้สายเสื้อในเส้นเล็ก เพราะทำให้เกิดแรงกดทับเยอะ และรองรับน้ำหนักได้จำกัด การใช้สายใหญ่และปรับระดับให้พอดีจะเหมาะสมมากกว่า

คัพ E ไซส์อกสุดเต็มแน่น มีเสน่ห์ ดึงดูดใจ

คัพ E เป็นขนาดหน้าอกผู้หญิงที่ใหญ่มาก มีความต่างของผลลัพธ์ระหว่างรอบใต้อกและรอบอกมากถึง 5 นิ้ว มักพบในคนที่มีโครงร่างใหญ่ โดยปริมาณเนื้อหน้าอกจะดูเต็มแน่นอย่างมาก ต้องอาศัยการใส่บราที่มีคุณภาพ สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีในการพยุงทรงไม่ให้หย่อนยานลงมา

คัพ E กี่ cc?

การวัดขนาดคัพ E ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ปริมาณซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 450-550 cc

คัพ E ดีอย่างไร

คัพ E มีข้อดีที่ความเต็มแน่นและขนาดใหญ่กว่าคัพหน้าอกอื่น ๆ ช่วยสร้างแรงดึงดูดต่อทุกสายตา หากอยู่กับคนที่มีโครงร่างใหญ่ จะให้ความรู้สึกที่สมดุล รูปร่างมีสัดส่วนสวยงาม

การเลือกชุดชั้นในสำหรับคัพ E

วิธีเลือกชุดชั้นในคัพ E ก็มีหลักเกณฑ์ไม่ต่างจากคัพหน้าอกอื่นนัก โดยสามารถทำได้ดังนี้

  • การวัดขนาดสัดส่วนหน้าอกของตนเองอย่างถูกต้อง แม่นยำ
  • เลือกสวมบราให้เหมาะกับสรีระและไลฟ์สไตล์ในแต่ละวัน เช่น บราปีกนกที่เน้นความสบายตัว มองไม่เห็นสายรัด เหมาะกับวันที่ต้องการใส่ชุดเกาะอก หรือเลือกใส่บราดันทรงเพื่อพยุงทรงหน้าอกให้สวยงาม
  • เลือกใช้เสื้อในสายใหญ่ เพื่อกระจายน้ำหนักของหน้าอก ลดการกดทับ อันเป็นสาเหตุให้รู้สึกปวดไหล่หรือระคายเคืองผิว

คัพ F อกสาวตัวแม่ ให้ความเซ็กซี่แบบเกินต้าน

คัพ F เป็นขนาดหน้าอกที่ใหญ่มาก มีความโดดเด่น สะดุดตาอย่างชัดเจน ส่วนต่างของผลลัพธ์จะประมาณ 6 นิ้ว สำหรับคนที่เลือกศัลยกรรมหน้าอกให้อยู่ในเกณฑ์ของคัพ F มักเป็นผู้ที่มีโครงร่างใหญ่ ต้องการเพิ่มขนาดพร้อมปรับแก้หน้าอกให้มีความสมบูรณ์ในระดับสูง การทำหน้าอกคัพนี้จึงควรเลือกคลินิกให้ดี เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นไปตามที่คาดหวัง

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสริมหน้าอกที่ไหนดี ได้ที่ : เสริมหน้าอกที่ไหนดี

คัพ F กี่ cc?

การวัดขนาดคัพ F ในหน่วย cc (ลูกบาศก์เซนติเมตร) สำหรับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก ปริมาณซิลิโคนหรือวัสดุเสริมที่ใช้มักอยู่ระหว่าง 550-650 cc

คัพ F ดีอย่างไร

คัพ F มีความโดดเด่นเรื่องสัดส่วนที่เว้าโค้งชัดเจน ช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ได้ดี มีความมั่นใจในรูปลักษณ์สูงขึ้น แม้จะแลกกับการเคลื่อนไหวคล่องตัวได้น้อยลง รวมถึงรู้สึกปวดหลังได้ง่ายก็ตาม

การเลือกชุดชั้นในสำหรับคัพ F

ผู้หญิงที่มีขนาดหน้าอกใหญ่ถึงคัพ F ควรเลือกเสื้อในตามแนวทางเหล่านี้

  • การวัดขนาดรอบอกและรอบใต้อกให้ถูกต้อง
  • ยิ่งมีคัพหน้าอกใหญ่ น้ำหนักที่ต้องแบกรับก็มากตาม จึงควรเลือกเสื้อในที่รองรับน้ำหนักได้ดีตลอดวัน เก็บเนื้ออกได้รอบด้าน ดูกระชับพอดีตัว
  •  เน้นการสวมบราที่มีสายเส้นใหญ่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการยกกระชับหน้าอก และปรับสายให้พอดีระหว่างสวมใส่ทุกครั้ง

วิธีการวัดและเลือกขนาดคัพ ทำยังไงให้รู้ไซส์ที่พอดีกับตัว?

การวัดและเลือกขนาดคัพของหน้าอกอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกชุดชั้นในหรือบราให้พอดีและสวมใส่สบาย นอกจากนี้ การวัดขนาดคัพที่ถูกต้องยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับความต้องการ

ขั้นตอนการวัดขนาดคัพ

  1. การวัดรอบใต้หน้าอก (Band Size)

ใช้สายวัดรอบใต้หน้าอก โดยระวังไม่ให้รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป ควรแนบสนิทกับร่างกายได้พอดี ผลที่ได้มักนับหน่วยเป็นนิ้ว เช่น 32, 34, 36 นิ้ว เป็นต้น

  1. การวัดรอบอก (Bust Size)

ยืนตัวตรงพร้อมหายใจตามปกติ จากนั้นใช้สายวัดรอบอกในระดับหัวนม จะได้รอบอกที่ถูกต้อง

  1. การคำนวณขนาดคัพ

นำสัดส่วนรอบอกและรอบใต้หน้าอกมาลบกัน จะได้ขนาดคัพที่ถูกต้องของแต่ละบุคคล เช่น รอบอก 34 นิ้ว รอบใต้หน้าอกมีขนาด 32 นิ้ว มีส่วนต่าง 2 นิ้ว คัพหน้าอกจึงอยู่ที่คัพ B นั่นเอง

วิธีการเลือกบราให้มีขนาดคัพที่เหมาะสม ใส่สบาย ช่วยกระชับหน้าอก

นอกเหนือจากการรู้คัพหน้าอกของตัวเองแล้ว การเลือกบราให้สวมใส่สบาย ยังมีเคล็ดลับอื่น ๆ ที่สามารถนำไปใช้ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อบราตัวใหม่ได้ดังนี้

  1. การทดลองสวมใส่ ก่อนตัดสินใจซื้อ

เมื่อรู้คัพหน้าอกแล้ว ควรลองสวมใส่จริงก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้บราที่รองรับดีและมีความสบายตัวมากที่สุด

  1. อย่าลืมตรวจสอบความพอดี

วิธีสังเกตว่าบราพอดีกับตัวเราหรือไม่ จะดูที่แถบใต้หน้าอกสามารถแนบกับร่างกายได้พอดี ยกแขนแล้วไม่เลื่อนขึ้น สายอยู่ในตำแหน่งเหมาะสม และคัพเสื้อในเก็บกระชับเนื้ออกได้ครบถ้วน ไม่มีเนื้อปลิ้นออกข้างและด้านบน

  1. การปรับตามความต้องการส่วนบุคคล

ควรเลือกบราให้ได้ขนาดที่พอดีกับคัพหน้าอกของตัวเอง มีคุณภาพสูง สามารถรองรับหน้าอกได้ดี ไม่อึดอัด จากนั้นจึงเลือกปัจจัยอื่น ๆ ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นประเภทบรา วัสดุที่ใช้ สี และสไตล์

ขนาดคัพและการเสริมหน้าอกให้เหมาะกับสรีระ

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกเป็นวิธีที่นิยมในการปรับแต่งขนาดและรูปร่างของหน้าอก ขนาดคัพที่ต้องการจะถูกกำหนดโดยการเลือกซิลิโคนหรือวัสดุเสริมอื่น ๆ ที่มีปริมาณ cc ตามความต้องการ โดยควรเข้ารับการประเมินรูปร่าง สภาพผิว และปริมาณเนื้อบริเวณเต้านมกับแพทย์ เพื่อให้เสริมหน้าอกได้เหมาะสมกับสรีระยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยให้ได้คัพหน้าอกที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป จนเกิดผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย

การรู้คัพหน้าอกจริง ช่วยให้เลือกบราได้เหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อการศัลยกรรมอก

ขนาดหน้าอกแต่ละคัพมีข้อดีแตกต่างกันไป สามารถคำนวณคัพหน้าอกของตัวเองได้ง่าย ๆ จากการใช้สายวัดรอบอกกับรอบใต้อกให้ถูกต้อง โดยผลต่างระหว่างสองสิ่งนี้ จะหมายถึงคัพหน้าอกของแต่ละคน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากต่อการเลือกชุดชั้นใน และการศัลยกรรมหน้าอก

สำหรับผู้ที่ต้องการอัพไซต์หน้าอกให้ใหญ่ขึ้น สามารถเข้ารับการประเมินรูปร่าง พร้อมวัดขนาดคัพโดยละเอียดได้ที่ The Art Clinic เพราะที่นี่มีแพทย์คอยให้คำแนะนำเรื่องการเพิ่มขนาดหน้าอกอย่างใกล้ชิด โดยอิงตามความต้องการของลูกค้า ร่วมกับการพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกัน เช่น รูปร่าง น้ำหนัก ส่วนสูง ปริมาณเนื้อหน้าอกเดิม ปริมาณ cc ที่อยากเสริม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการมากที่สุดนั่นเอง

Email
Phone
Line
Line
Phone
Email